- พ.ศ.1865 ผสมเทียมม้า (อาหรับ)
- พ.ศ.2323 ผสมเทียมสุนัข(อิตาลี)
- พ.ศ. 2473 ผสมเทียมในโคและแกะ(รัสเซีย)
- พ.ศ. 2492 ซี โพล และคณะ ชาวอังกฤษ ได้ทำการแช่ แข็งน้ำเชื้อได้สำเร็จ
โดยเก็บน้ำเชื้อในน้ำแข็งแห้ง อุณหภูมิ -79 องศาเซลเซียส
โดยเก็บน้ำเชื้อในน้ำแข็งแห้ง อุณหภูมิ -79 องศาเซลเซียส
- พ.ศ. 2495 เติมกลีเซอรอล ลงในสารเจือจางน้ำเชื้อ
จะช่วยให้อสุจิรอดชีวิตจากการเก็บที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส
ซึ่งเป็นจุดเริ่มในการผลิตน้ำเชื้อแช่แข็ง
ประวัติการผสมเทียมในประเทศไทย
- พ.ศ.2496 ศาสตราจารย์นีลล์ ลาเกอร์ลอฟ ชาวสวีเดน ผู้เชี่ยวชาญจากเอฟ.เอ.โอ.
ได้เดินทางมาสำรวจการเลี้ยงปศุสัตว์ในประเทศไทย โดยทุนของ เอฟ.เอ.โอ.
จากนั้นได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันเพื่อทูลเกล้าฯ
ถวายโครงการผลิตโคนมลูกผสมด้วยวิธีการผสมเทียม
- พ.ศ. 2497 กรมปศุสัตว์ได้ส่งข้าราชการ ไปศึกษาอบรมนานาชาติ ณ
ราชวิทยาลัยสัตวแพทย์ กรุงสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ซึ่งองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติร่วมกับรัฐบาลสวีเดน ได้เปิดหลักสูตรฝึกอบรมวิชาการสืบพันธุ์
รวมทั้งการผสมเทียมขึ้นเป็นรุ่นแรก
- พ.ศ. 2499 กรมปศุสัตว์ได้เปิดสถานีผสมเทียมแห่งแรก ที่จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2499 ได้ผสมเทียมให้แม่โคตัวแรก
- พ.ศ. 2501 สถานีผสมเทียมแห่งที่สองได้ตั้งขึ้นที่หน่วยผสมเทียมกลาง
ในกรมปศุสัตว์ ได้พัฒนาและปรับปรุงพื้นฐานการเลี้ยงโคนมและการผสมเทียม
ในกรุงเทพมหานคร จนประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง
ซึ่งเป็นจุดเริ่มในการผลิตน้ำเชื้อแช่แข็ง
ประวัติการผสมเทียมในประเทศไทย
- พ.ศ.2496 ศาสตราจารย์นีลล์ ลาเกอร์ลอฟ ชาวสวีเดน ผู้เชี่ยวชาญจากเอฟ.เอ.โอ.
ได้เดินทางมาสำรวจการเลี้ยงปศุสัตว์ในประเทศไทย โดยทุนของ เอฟ.เอ.โอ.
จากนั้นได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันเพื่อทูลเกล้าฯ
ถวายโครงการผลิตโคนมลูกผสมด้วยวิธีการผสมเทียม
- พ.ศ. 2497 กรมปศุสัตว์ได้ส่งข้าราชการ ไปศึกษาอบรมนานาชาติ ณ
ราชวิทยาลัยสัตวแพทย์ กรุงสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ซึ่งองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติร่วมกับรัฐบาลสวีเดน ได้เปิดหลักสูตรฝึกอบรมวิชาการสืบพันธุ์
รวมทั้งการผสมเทียมขึ้นเป็นรุ่นแรก
- พ.ศ. 2499 กรมปศุสัตว์ได้เปิดสถานีผสมเทียมแห่งแรก ที่จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2499 ได้ผสมเทียมให้แม่โคตัวแรก
- พ.ศ. 2501 สถานีผสมเทียมแห่งที่สองได้ตั้งขึ้นที่หน่วยผสมเทียมกลาง
ในกรมปศุสัตว์ ได้พัฒนาและปรับปรุงพื้นฐานการเลี้ยงโคนมและการผสมเทียม
ในกรุงเทพมหานคร จนประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง
ข้อดี
- ปรับปรุงพันธุ์และขยายพันธุ์ที่ต้องการได้ในเวลาอันสั้น
- ลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย ในการจัดการเลี้ยงพ่อพันธุ์
- ลดความเสี่ยงต่อการติดโรค
- ปลอดภัย(พ่อพันธุ์ดุ)
- สะดวกในการเลือกใช้
ข้อเสีย/ข้อควรระวัง
1. มาตรฐานน้ำเชื้อ/เทคนิคการผสม
2. โรคติดต่อ
3. ลักษณะด้อยที่แฝงอยู่ของพ่อพันธุ์
4. ความชำนาญในการล้วงตรวจท้อง
การผสมเทียม
- กายวิภาคศาสตร์
- การจับสัด/กำหนดเวลาผสม
- การเตรียมแม่โค
- การเตรียมอุปกรณ์/เตรียมน้ำเชื้อ
- การสอดท่อและปล่อยน้ำเชื้อ
- การตรวจการตั้งท้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น